Categories
สปอยการ์ตูน

อนิเมชั่น สุสานหิ่งห้อย Grave of the Fireflies เรื่องราวที่สร้างมาจากเรื่องจริง

อนิเมชั่น สุสานหิ่งห้อย เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในสมัยสงครามโลก ครั้งที่ 2

อนิเมชั่น สุสานหิ่งห้อย หนังการ์ตูนที่ ถูกสร้างขึ้นมาโดย อ้างอิงจากเรื่องจริง เนื้อเรื่องถูกดัดแปลง มาจากหนังสือ ชีวประวัติของเด็กหนุ่ม อะคิยูกิ โนซากะ
ซึ่งเขาได้สูญเสีย น้องสาวอันเป็นที่รัก จากภาวะ การขาดแคลนอาหาร ในระหว่างสงครามโลก ครั้งที่ 2

เป็นหนังการ์ตูน ของสตูดิโอจิบลิ ซึ่งเป็นบริษัทสร้าง รีวิวอนิเมะ สปอยการ์ตูน ภาพยนตร์การ์ตูน ชื่อดังหลายๆ เรื่องในประเทศญี่ปุ่น อนิเมชั่นสุสานหิ่งห้อย grave of the fireflies ถูกลิขสิทธิ์ ออกฉายในปี ค.ศ. 1988 โดยผลงาน การกำกับของ อิซะโอะ ทะคะฮะตะ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้น เหตุการณ์ระหว่าง สงครามโลก ครั้งที่สอง ที่ประเทศญี่ปุ่น เรื่องราวในเรื่องนี้ พูดถึงความรัก ความผูกพัน ของสองพี่น้อง ที่อาศัย อยู่ในเมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่น

อนิเมชั่น สุสานหิ่งห้อย เรื่องราวที่น่าเศร้าของสองพี่น้อง

อนิเมชั่น สุสานหิ่งห้อย

เรื่องนี้ grave of the fireflies เรื่องย่อ ดำเนินเรื่องราว สปอยการ์ตูน ถึงเหตุการณ์ ในสมัยสงครามโลก ครั้งที่ 2 โดยเล่าว่า เซตะ เด็กชายอายุ 14 ปี ซึ่งเป็นลูกชายคนโต ของนายพล ทหารเรือญี่ปุ่น เหตุการณ์เกิด ในตอนที่เขา กำลังขนเสบียงอาหาร ลง หลุมหลบภัย เพื่อเก็บอาหาร ไว้ในเวลา ที่สงครามสงบลง

ขณะที่เขา กำลังยุ่ง กับการขนย้าย เสบียงอาหารอยู่นั้น เครื่องบินโจมตี ก็ได้บินเข้ามา ในพื้นที่เมือง บริเวณบ้านของเขา เพื่อจะปล่อยระเบิด ซึ่งครั้งนี้
ถือว่ารุนแรง และสร้างความเสียหาย กว่าที่ผ่านมา เซตะจึงได้บอก ให้แม่ของเขา ไปหลบที่ หลุมหลบภัยก่อน เพราะกลัวว่า อาการป่วยของแม่ จะกำเริบ เนื่องจากแม่ของเขา ป่วยเป็นโรคหัวใจ โดยเขาได้ให้ คำสัญญากับแม่ ว่าตัวเขา และน้องสาว เซซิโกะ อายุ 4 ขวบ จะตามมาทีหลัง

ในขณะที่ ทุกคนกำลัง เดินทางไปยัง หลุมหลบภัย เครื่องบินโจมตี ก็ได้ทิ้งระบิด ลงมาทันที ทำให้เขา และน้องสาว วิ่งไปหลบภัย ตรงเนินเขา ที่เป็นกำแพง
หินอยู่ชายทะเล และทำให้ทั้งสองคน พลัดหลงกับแม่ ด้วยเหตุนี้ จึงต้องทำให้เขา ต้องดูแลน้องสาว และหาวิธิการต่าง ๆ เพื่อหาอาหาร และหาหนทาง
เพื่อให้อยู่รอด มีชีวิตเพื่อที่จะ ตามหาแม่ของเขา ให้พบจนได้

การ์ตูนเรื่องนี้ ดูแล้วได้น้ำตา และหดหู่ใจ เนื้อเรื่องเล่าไปถึง การหาอาหาร เพื่อความอยู่รอด ตามที่เด็กคนนึง จะทำได้ หรือมีการขโมยของ ของชาวบ้าน มาให้น้องกิน การ์ตูนเล่าถึง ภาวะหลังสงคราม ที่ทำลายทุกอย่าง สอนเรื่องมิตรแท้ สงครามไม่ได้ เป็นสิ่งที่ดี แต่เป็นการทำลาย

ผู้คนที่อดยาก ขาดแคลนอาหาร การแย่งชิงอาหารกัน และไร้บ้าน มองไปทางไหน มีแต่สิ่งหักพัง เรื่อง Grave of the Fireflies ข้อคิด เนื้อเรื่องมีฉาก
ที่สะเทือนใจ ที่สามารถเรียกน้ำตา จากคนดูได้ เรื่องนี้ยังสอนให้ รู้จักการมองโลก อย่างมีความหวัง เชตะมีการพูด ให้กำลังใจน้อง ปลอบน้องไม่ให้กลัว มีการถ่ายทอด เรื่องราวความรัก ความสัมพันธ์ ความรักมากมายที่ล้นเอ่อ ของสองพี่น้อง จนน้ำตา ต้องไหลออกมา ได้แน่นอน สุดท้ายจบลง ด้วยเรื่องเศร้า

ซึ่งภายหลัง เรื่องเล่าถึงว่า บ้านของเขา ถูกระเบิดลง และไฟไหม้หมดทั้งหลัง ส่วนแม่กับพ่อที่เป็นทหาร ก็ได้เสียชีวิตไปด้วย ซึ่งเป็นเรื่องน่าเศร้าใจ
จึงทำให้สองพี่น้อง ไม่มีที่อยู่อาศัย ในเรื่องดำเนิน เรื่องไปเรื่อย ๆ เล่าถึงการ เอาชีวิตรอด ของเด็กสองคน ที่ต้องใช้ชีวิต อยู่กันโดยลำพัง ในภาวะสงคราม

ภาพถ่ายที่ถูกบันทึก จากช่างภาพ จากกองทัพอเมริกา ที่เป็นต้นเรื่องของการ์ตูน

grave of the fireflies ถูกลิขสิทธิ์

สำหรับภาพในต้นเรื่องนั้น ได้จากช่างภาพ กองทัพอเมริกา ที่ถูกส่งตัวมา ยังประเทศญี่ปุ่น เรื่องราวของ grave of the fireflies เรื่องจริง เพื่อบันทึกความเสียหาย รวมทั้งผู้คน ที่ต้องล้มตาย และบาดเจ็บ ในรูปจะเห็นเด็กผู้ชาย สะพายศพ ของน้องบนหลัง และนำเดินมาจุดที่เผาศพ และยืนในท่าตัวตรง แบบทหาร เด็กชายเม้มปาก เพื่อข่มไม่ให้ร้องไห้ ให้ใครเห็นความอ่อนแอ โดยมีศพของน้อง อยู่บนหลัง เป็นภาพที่ หลายคนเห็นแล้ว รู้สึกสะเทือนใจ

จากที่ช่างภาพ เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในตอนนั้น ให้ฟังว่า เขาเห็นเด็กชายคนหนึ่ง อายุประมาณ 10 ขวบ ที่หลังของเขา สะพายเด็กน้อยไว้ตลอดเวลา
แต่ตอนนั้น ก็ยังไม่ได้ รู้สึกแปลกอะไร เพราะว่าในประเทศญี่ปุ่น เรามักจะเห็นเด็ก ที่มีน้องชาย น้องสาว สะพายน้องไว้ ที่หลังตัวเอง

แต่เขาเริ่มสังเกต เห็นเด็กคนนี้ว่า มีอะไรที่ผิดปกติ ไปจากเด็กคนอื่น ๆ ท่าทางมายืนอยู่ตรงนี้ ด้วยความหดหู่ มีสีหน้าที่เคร่งเครียด และไม่ได้สวมรองเท้า
ส่วนเด็กเล็ก ที่อยู่บนหลังของเขา ก็ยังมีท่าทาง หงายศีรษะขึ้น เหมือนกับคนที่หงายหลับไป

เขาเล่าให้ฟังต่อว่า เด็กชายคนนี้ ยืนอยู่ตรงจุดเผาศพ นานประมาณ 5 – 10 นาที จากนั้นก็มีชายสวมหน้ากาก ปิดปากสีขาว เดินอ้อมไปที่ เด็กชายคนนั้น
โดยที่ไม่พูดอะไร แล้วอุ้มเด็กเล็ก ที่อยู่บนหลังเด็กชายออกมา ตอนนั้นจึงได้รู้ว่า เด็กเล็กที่อยู่บนหลัง ของเด็กชายคนนั้น ได้เสียชีวิตแล้ว

จากนั้นผู้ชาย ก็เอาร่างน้องสาวของเขา วางลงบนกองไฟ ช่างภาพบอกอีกว่า เขาสังเกตเห็น เด็กชายคนนั้น ได้กัดริมฝีปากล่างอย่างแรง จนเลือดไหล
เด็กชายก็ยังคงยืนดู อยู่ตรงนั้น ไม่ไปไหน จนกระทั่งไฟมอดลง เด็กชายมองหันไปรอบๆ ตัว แล้วก็เดินจากไป

นักประพันธ์ที่เขียนเรื่องนี้ เปรียบหิ่งห้อย เป็นชีวิตของเด็กๆ ในช่วงสงคราม ซึ่งหิ่งห้อยเป็นสัตว์ที่ตายง่าย เมื่อหิ่งห้อยตาย แสงของหิ่งห้อย ก็จะดับลง
ที่เปรียบเหมือนกับชีวิต และความหวังอันน้อยนิดของเด็กๆ ในช่วงสงครามโลกนั่นเอง

เรียบเรียงโดย อลิส